Isuzu จะทำเครื่อง 1900 มีใครสนใจบ้างงง

[samurai]

Isuzu เตรียมลุยตลาดกระบะเล็กในไทย 2014



ISUZU D-Max เตรียมลงเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ในปี 2015

ในยุคปัจจุบันราคาน้ำมันนับวัน ยิ่งจะสูงขึ้นมาเรื่อยๆทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันมากขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากปัญหาน้ำมันที่เราใช้มากเกินไป ทำให้เกิดการผลิตไม่ทัน จึงทำให้ลูกค้าต้องการรถยนต์ที่แกร่ง แข็งแรงไม่พอ ยังต้องประหยัดน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยเฉพาะรถสายพันธ์ลุยอย่างรถกระบะเมืองไทยของเราให้การยอมรับเจ้า D-Max เป็นอย่างดี นับเป็นรถยนต์ที่ประหยัด และ ล่าสุดทางค่ายได้เผยถึง การลงเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร และ ยังมีข่าวหลุดออกมาว่าจะลง 2.0 ลิตร

ตอนนี้เรามาพูดถึงเจ้าเครื่องดีเซลขนาด 1.9 ลิตรกันก่อน จะเข้ามาแทนที่เครื่อง 2.5 และ 3.0 ลิตร ที่กำลังขายในปัจจุบัน สิ่งที่พิเศษในเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรคือตัวกำลังและสมถรรนะเทัียบเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร และ คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์รักษ์โลก อย่างแน่นอน

สำหรับยอดขาย ISUZU D-Max ในปี 2012 ทำยอดขายได้ถึง 410,000 คันโดยกำลังซื้อจากตลาดเอเซียมากถึง 65% โดยทางค่ายจะมีแผนทำยอดขายในมีนาคม ปี 2016 ให้ได้มากถึง ครึ่งล้านคัน หรือ เพิ่มขึ้น 20% เจ๋งสุดๆ

.............................................................

Isuzu เตรียมลุยตลาดกระบะเล็กในไทย 2014

ในเมืองไทยคงจะไม่มีใครรู้จักรถยนต์สายพันธ์กระบะยอดนิยมอย่างของค่าย Isuzu ซึ่งพวกเขาได้มีการพัฒนากระบะให้แกร่ง และ ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดทางค่ายรถญิปุ่นรายนี้ ได้เผยแผนการตลาดรถกระบะขนาดเล็กในเมืองไทย ซึ่งเราเป็นวงการผู้บริโภครถกระบะที่ใหญ่ของโลก เลยทีเดียว

โดยทางสำนักข่าว นิเคอิ สำนักข่าวใหญ่ของญิงปุ่นรายงานว่า ทางค่ายรถ ISUZU เตรียมส่งกระบะเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเพียง 1,900 ซีซี  ทำตลาดภายในปี 2015 เพื่อลดราคา และ ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน ซึ่งเครื่องยนต์ขนาด 1,900 ซีซี มีสมรรถนะเทียบเท่าเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี และยังคาดว่า เครื่องยนต์ใหม่จะมาในรูปของ Isuzu D-Max โฉมใหม่ ปี 2015 อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ทาง อิซุซู ได้วางรถยนต์กระบะขายในปี 2012 ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ถึง 410,000 คัน ซึ่งครองตลาดได้มากกว่าร้อยละ 65จากการขายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยที่ทาง ISUZU ตั้งเป้าสำหรับเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ว่า จะสามารถทำยอดทะลุถึง 500,000 คันต่อปี

ในประเทศไทยเศรษฐกิจเติบโตไปอย่างรวดเร็ว และ เข้มแข็งในด้านอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตรกร ยนต์กรรม หรือ อื่นๆอีกมากมาย ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และ หลากหลายทาง เพราะเหตุนี้ ทางค่าย ISUZU จึงผลิตเครื่องยนต์เครื่องยนต์ที่ช่วยลดมลภาวะ ไม่มากก็น้อย

...................................................................................

JAPAN: Isuzu to sell Thai pickups with smaller engines
By Graeme Roberts | 9 August 2013
Isuzu Motors will begin sales in Thailand in 2015 of pickup trucks powered by smaller engines, a move aimed at keeping prices down while improving fuel economy.

The automaker will add a 1.9-litre diesel engine to the 2.5- and 3-litre engines now available in its D-Max pickups, the Nikkei reported. It aims to obtain the same output and performance as the 2.5-litre engine.

Isuzu sold around 410,000 pickups worldwide in the fiscal year to 31 March with 65% bought in Southeast Asia. By introducing vehicles with smaller engines, it hopes to boost worldwide pickup truck sales by more than 20% to 500,000 units in the year to 31 March 2016.

Thailand and other developing economies have less stringent environmental regulations than industrialised countries. But air pollution is becoming a problem amid rapid motorisation, especially in big cities.

Isuzu's smaller engine is designed to accommodate the tougher environmental regulations that will be put in place in the future, the Nikkei noted.

http://www.just-auto.com/news/isuzu-to-sell-thai-pickups-with-smaller-engines_id137041.aspx

[Apk_chart]

น่าสนครับน้า

[one_one75]

  เป็นไปตามข้อกำหนด(ข้อบังคับ) ของกระทรวงการคลังเสนอโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ รถตั้งแต่ 1 ม.ค.2559  โดยจากเดิมโครงสร้างภาษีจะคิดจาก “ขนาดเครื่องยนต์(CC.) และแรงม้า” (ยิ่งเยอะยิ่งแพง) แต่โครงสร้างใหม่จะคิดจาก 3ปัจจัย นั่นคือ “ขนาดเครื่องยนต์(CC.) ปริมาณไอเสีย(คาร์บอนไดออกไซด์  หรือ CO2) ที่ปล่อยจากเครื่องยนต์ และพลังงานเชื้อเพลิงที่รถยนต์คันนั้นใช้” จากโครงสร้างใหม่ที่กล่าวไปเห็นชัดๆเลยว่า รัฐบาลมีการสนับสนุนให้ผู้ผลิตรถยนต์ออกแบบและพัฒนารถยนต์ที่มีการปล่อยไอเสียในระดับที่ต่ำลง เนื่องจากรถกลุ่มนี้จะเสียอัตราภาษีในอัตราที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ปล่อยไอเสียมากๆ ทำให้ผู้ผลิตสามารถกำหนดราคารถยนต์ให้ต่ำกว่าได้ (เสียภาษีถูกลง) ซึ่งนำไปสู่ปริมาณการใช้รถยนต์กลุ่มนี้มีเพิ่มขึ้นนั่นเอง(ส่งผลดีต่อสภาพแวดล้อม) ดัง
นี้
 
1. รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร                                 จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                    จัดเก็บภาษี 40% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)

2. รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 25% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร                                 จัดเก็บภาษี 30% (เดิมจัดเก็บภาษี 25%)
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                    จัดเก็บภาษี 35% (เดิมจัดเก็บภาษี 30%)

3. รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 10%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร                                 จัดเก็บภาษี 10%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร                             จัดเก็บภาษี 20%
- ปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร                            จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                      จัดเก็บภาษี 30%

4. รถยนต์ Eco Car (เดิมจัดเก็บภาษี 17%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และใช้น้ำมัน E85 ได้       จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 14%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-120 กรัมต่อกิโลเมตร                            จัดเก็บภาษี 17%

5. รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 3%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                     จัดเก็บภาษี 5%

6. รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 3%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 5%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                    จัดเก็บภาษี 7%

7. รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิ้ลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 12%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                    จัดเก็บภาษี 15%

8. รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี (เดิมจัดเก็บภาษี 20%)
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร                                  จัดเก็บภาษี 30%


สรุปง่ายๆ รถอีโก้คาร์ จะถูกลงภาษีสรรพฯจาก 17 เหลือ 14%
เครื่องยนต์ 1400 cc  ขึ้นไปเสียแพงขึ้นทั้งหมด
กระบะ จาก3 เป็น 5%
4ประตู จาก 12 เป็น 15%
แพงขึ้นไปอีกครับ 555

[SEKSAN047]

จะรอดูครับว่าจะทำออกมาจริงป่าว ก็น่าสนใจอยู่ครับ...

[khanclub]

ผมลองนั่งคิดเล่นๆ นะครับ ว่าถ้าปีหนึ่งวัยทำงานเกิดขึ้นสัก 10 ล้านคน และมีกำลังซื้อรถยนต์ ได้คนละ 1 คัน  ...ISUZU....จะมีกำลังการผลิตทันต่อความต้องการหรือเปล่าหนอ.......  

[Nart_X-series NDC.1675]

เสียงโบคงดังน่าดู 

[AOD 257]

  คงประหยัดน่าดู

[watmodify_koykad]

คงจะดีเหมือนกันครับน้า

[ericqa]

  คงมาแนวเดียวกับ ford น่ะครับ เครื่องเล็ก แต่โบปั่นที่รอบสูง

[kaibpk]

รอดูต่อไปครับ

[Zeldar]

มาแน่นอนคับได้ข่าวมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้ IMCT ยังนิ่งอยู่ รอชมนะ

[MiRaCleSz]

ไม่น่าเวิร์คนะ

[DEKCOM@ALL NEW D-MAX]

  จะมีโบคู๋หรือเปล่าครับ 

[Mesawat Damkwan]

ไม่สนใจ
มีเครื่อง 3.0 อยู่คู่ใจไปอีกนาน